ระบบบัส

            ความเร็วในการทำงานของคอมพิวเตอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเร็วของซีพียูแต่เพียงอย่างเดียวเนื่องจากข้อมูลและคำสั่งจะต้องผ่านไปมาระหว่างอุปกรณ์ต่างๆบนเมนบอร์ดและอุกรณ์ภายนอกเครื่องโดยอาศัยบัสเป็นช่องทางเดิน บัสที่ดีจะต้องเร็วพอที่จะยอมให้กับอุปกรณ์อื่นๆรับและส่งข้อมูลผ่านไปได้ด้วยความเร็วเต็มที่ของอุปกรณ์นั้นเพื่อที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาคอขวดในการส่งผ่าข้อมูล


            อุปสรรค์ของการพัฒนาระบบบัสคือ ข้อมูลของคอมพิวเตอร์จะมีลักษณะเป็นสัญญาณดิจิตอลซึ่งอาจผิดเพี้ยนได้ง่ายเมื่อบัสมีความเร็วสูง หรือด้วยระยะทางที่ยาวและวกวนของเมนบอร์ดดังนั้นระบบบัสในปัจจุบันจึงมีความเร็วเพียง66-133MHzซึ่งนับว่าช้ามากเมื่อเทียบกับความเร็าของซีพียูทำให้ปัจจุบันซีพียูมีความเร็วเกินกว่า1000MHz หรือ 1GHz แล้ว ดั้งนั้นระบบบัสแบบใหม่จึงแบ่งความเร็วออกเป็น
2-4ชุดเพื่อการทำงานกับอุปกรณ์ที่มีความเร็วต่างกัน


          เนื่องจากการติดต่อระหว่างกับอุปกรณ์ต่างภายในคอมพิวเตอร์ต้องอาศัย
ระบบบัสเพื่อให้เข้าใจถึงการทำงานของระบบบัสโดยมีการพัฒนาเป็นลำดับดังนี้


            AT-Bus
            AT-Busเป็นบัสที่พัฒนาขึ้นมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่ใช้ซีพียู 8088 มีความเร็ว 8MHz แบบ16 บิต บัสชนิดนี้ซีพียูจะเป็นผู้ควบคุมการใช้บัส ถ้าอุปกรณ์ในระบบตัวใดต้องการใช้งานบัสจะต้องส่งคำขอขัดจังหวะไปยังซีพียูทำให้เสียเวลาในการติดต่อกับซีพียูระบบจึงมีความเร็วต่ำ เช่นโมเด็มการ์ดเสีย และการ์ดแลน

            EISA และ MCA 
            MCA โดยแบ่งให้อุปกรณ์แต่ละชนิดสามารถที่จะใช้บัสได้โดยเท่าเทียมกันไม่ต้องขอผ่านซีพียู  โดยแบ่งให้อุปกรณ์แต่ละชนิดสามารถที่จะใช้บัสโดยเท่าเทียมกันไม่ต้องขอผ่านซีพียูโดยมีวาจรควบคุมชุดหนึ่งบัสชนิดนี้มีความเร็ว10 MHz แต่เนื่องจากไม่สามารถใช้กับการ์ดรุ่นเก่าได้จึงไม่เป็นที่นิยม
            ต่อมาได้เกิดระบบบัสแบบใหม่คือ Extended ISA หรือEISA ซึ่งมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ  MCA และสามารถใช้กับการ์ดรุ่นเก่าได้ แต่มีความเร็วเพียง8 MHz

            VL-Bus
            เนื่องจากในระยะต่อมามีการใช้โปรแกรมที่เป็นกราฟฟิคหรือ Gui (Graphics User Interface) จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลจำนวนมากในการแสดงผลกราฟฟิคบนหน้าจอแต่ละบัสแบบเก่าที่มีความเร็วต่ำไม่เพียงพอ จึงเกิดมีกลุ่มที่เรียกว่า VESA (Video Electronics Standard Association) ได้เสนอระบบที่มีการติดต่อระหว่างซีพียูกับการ์ดแสดงผลโดยตรง เพื่อให้การ์ดแสดงผลมีความเร็วใกล้เคียงซีพียูเพิ่มมากขึ้น จึงเกิดความนิยมใช้กันมาก ต่อมาได้มีการพัฒนาเป็นเวอร์ชั่น2 แต่ยังไม่ทันได้ใช้กันอย่างแพร่หลาย ก็มาถูกแทนที่ด้วยระบบบัสแบบใหม่
   PCI
            เป็นระบบบัสแบบใหม่มาแทนที่ VL-bus ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Intel ในปี 1993 เรียกว่า Peripheral Component Interconnect โดยจะมีชิปเซ็ตที่เป็นวงจรสำหรับควบคุม บัสโดยเฉพาะทำให้ความเร็วในการติดต่อของอุปกรณ์ต่างๆ สูงขึ้น โดย

                                                
            ปัจจุบันความเร็วของบัส PCI ผันแปรเป็นสัดส่วนกับความเร็วของSystem bus เช่น ถ้าต้องการความเร็วเป็น 66MHz ความเร็ว PCI จะเท่ากับครึ่งหนึ่งคือ 33MHz ถ้าเป็นบัส100MHz ก็จะหาร 3 หรือถ้าเป็นบัส133MHz จะหาร 4 ดังนั้นความเร็วของ PCI จะไม่สูงเกินไป ซึ่งจะทำให้การ์ดต่อเพิ่มที่เสียบอยู่กับสล็อตและบัสชนิดนี้ สามารถทำงานได้เป็นปกติ     

                                           


AGP
          
             ในระบบบัสความเร็วสูงที่เรียกว่า Accelerated Graphic Port Intel มีการพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับการ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ ที่ต้องการใช้ข้อมูลในการประมวลผลภาพเคลื่อนไหว และภาพ 3 มิติสูงมากบัสชนิดนี้พัฒนาโดยบริษัท PCI คือ 66MHz เนื่องจากบัสชนิดนี้มีการส่งผ่านข้อมูลจำนวนมากและต้องการความเร็วที่สุดจึงต้องวางไว้ใกล้กับซีพียู ส่วนมากบนเมนบอร์ดจะมีสล็อตชนิดนี้เพียงชนิดเดียว








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น